วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

การติดตั้ง Microsoft Office Professional Plus 2010

การติดตั้ง Microsoft Office Professional Plus 2010

Installing Microsoft Office Professional Plus 2010 Step by Step

การติดตั้ง Microsoft Office Professional Plus 2010
ไมโครซอฟท์เปิดให้ลูกค้าแบบ Volume License (VL) ที่มีไลเซนส์ Software Assurance (SA) สามารถดาวน์โหลด Office 2010 RTM ได้แล้วเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2553 ที่ผ่านมา (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Office 2010 RTM Available to Volume License Customers) สำหรับบทความนี้จะแสดงขั้นตอนการติดตั้ง Microsoft Office Professional Plus 2010 เวอร์ชัน 32-bit บน Windows 7 Ultimate ครับ

ทั้งนี้ ไฟล์ติดตั้ง Microsoft Office Professional Plus 2010 ที่ดาวน์โหลดจาก Volume License Service Center (VLSC) นั้นจะอยู่ในรูปแบบไฟล์ ISO อิมเมจ ดังนั้นจะต้องทำการเบิร์นลงแผ่น CD/DVD หรือจะต้องใช้โปรแกรมจำลองไดรฟ์ทำการเม้าต์ ISO อิมเมจก่อนจึงจะสามารถใช้ทำการติดตั้งได้ โดยการติดตั้ง Microsoft Office Professional Plus 2010 มีขั้นตอนดังนี้

1. ใส่แผ่น CD/DVD ติดตั้ง Microsoft Office Professional Plus 2010 เข้าในไดรฟ์ จากนั้นในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ User Account Control (UAC) ให้คลิก Continue กรณีที่ AutoPlay ไม่ทำงานให้คลิกไอคอน Windows Explorer ซึ่งอยู่ด้านขวาของปุ่ม Start แล้วดับเบิลคลิกไดรฟ์ที่ใส่แผ่น CD/DVD

User Account Control

2. รอจนโปแกรมเตรียมการเซ็ตอัพระบบแล้วเสร็จ จากนั้นในหน้า Read the Microsoft Software License Terms ให้เลือกเช็คบ็อกซ์หน้า I accept the terms in this agreement เสร็จแล้วคลิก Continue

Microsoft Software License Terms

3. ในหน้า Choose the installation you want จะเป็นหน้าที่ให้เลือกว่าจะติดตั้งแบบดีฟอลท์หรือทำการติดตั้งโดยปรับแต่ง เอง (Customize) หากติดตั้งแบบดีฟอลท์ให้คลิก Install Now แล้วไปยังขั้นตอนที่ 5 หากติดตั้งแบบปรับแต่งเองให้คลิก Customize แล้วไปยังขั้นตอนที่ 4

หมายเหตุ: แนะนำให้ติดตั้งแบบปรับแต่งเอง (Customize) เนื่องจากมีหลายองค์ประกอบที่ไม่มีความจำเป็นใช้งาน

Choose the installation

4. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ถัดไปให้เลือกองค์ประกอบของ Microsoft Office ที่ต้องการติดตั้ง ในกรณีที่ต้องการกำหนดโฟลเดอร์ที่จะใช้ติดตั้งเองสามารถทำได้โดยการคลิกแท็บ File Location แล้วป้อนพาธของโฟลเดอร์ที่ต้องการ หากต้องการกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ใช้ให้คลิกแท็บ User Information แล้วป้อนรายละเอียด อนึ่งหลังจากทำการกำหนดค่าต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้วให้คลิก Install Now เพื่อเริ่มการติดตั้ง Microsoft Office Professional Plus 2010

Customize installation

5. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ Installation Progress รอจนการติดตั้งโปรแกรมแล้วเสร็จ

Installation Progress

6. ในหน้าไดอะล็อกบ็อกซ์ถัดไปคลิก Close เพื่อจบการติดตั้ง Microsoft Office Professional Plus 2010

Successfully Installed

เริ่มต้นใช้งาน Microsoft Office Professional Plus 2010
หลังจากทำการติดตั้ง Microsoft Office Professional Plus 2010 เสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นให้คลิก Start คลิก All Programs คลิก Microsoft Office แล้วคลิกโปรแกรมที่ต้องการใช้งาน เช่น Microsoft Word 2010 หรือ Microsoft PowerPoint 2010 เป็นต้น

การติดตั้ง และใช้งาน Avast

การติดตั้ง และใช้งาน Avast

การติดตั้ง และใช้งาน Avast

1. ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งที่เว็บ Avast ที่ http://www.avast.com/free-antivirus-download จะเข้าสู่เว็บไซต์ ดังภาพ
 ที่ Select download เลือกภาษา English (44MB) แล้วคลิ๊กปุ่ม Download now
2. แสดงหน้าจอ  Download Avast Free Antivirus 5.0.545 ดังภาพ ให้คลิ๊กที่ Download now
3. จะแสดง Popup ให้ Save ไฟล์ที่จะ Download คลิ๊กปุ่ม Save (ถ้าใช้ Firefox คลิ๊กปุ่มบันทึกแฟ้ม)
4. เลือกตำแหน่งที่จะเก็บไฟล์ จากตัวอย่างให้ Save ไว้ที่ Desktop โดยคลิ๊กปุ่ม Desktop แล้วคลิ๊กปุ่ม Save
5. เมื่อ Download เสร็จแล้ว จะได้ไฟล์ setup_av_free.exe อยู่ที่ Desktop ดังภาพ

ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ setup_av_free.exe เพื่อติดตั้งโปรแกรม (ควร Remove ลบโปรแกรมกำจัดไวรัสตัวอื่นออกก่อน)
6. หลังการติดตั้งแล้ว ที่ Task bar (ตรงมุมล่างด้านขวาของจอ) จะมีสัญลักษณ์ของโปรแกรม Avast แสดงอยู่ (เป็นตัว "a" ในวงกลม)

ถ้าติดตั้งไว้เฉยๆ โปรแกรมจะใช้งานได้แค่ 60 วัน จึงต้อง Register ด้วย เพื่อให้สามารถใช้งานได้ 1 ปี (หากครบ 1 ปี ก็ Register ใหม่ได้)
7. วิธีการ Register ให้เข้าไปที่เว็บ Avast ที่ http://www.avast.com/index แล้วคลิ๊กที่เมนู Support ที่ส่วนของ License Center คลิ๊กที่ Register new free license
8. จากนั้นจะแสดงหน้า Register สำหรับใช้งานฟรี 1 ปี ซึ่งจะต้องกรอกข้อมูล (เป็นภาษาอังกฤษ) ในช่องด้านล่างให้ครบ


** ที่สำคัญ e-mail ห้ามผิดเด็ดขาด เพราะ Avast จะส่งรหัส Register มาทาง e-mail ที่เรากรอกไว้
เมื่อกรอกข้อมูลครบทั้งหมดแล้ว ให้คลิ๊กที่ปุ่ม Register for free license (ด้านล่าง)
9. เมื่อ Register เรียบร้อยแล้ว จะแสดงหน้าต่างดังภาพ (หากไม่แสดงหน้าต่างนี้ ให้กลับไปกรอกข้อมูลใหม่ ให้ถูกต้องและครบถ้วน)

10. ให้เปิด Email ของท่าน (ที่กรอกไว้ตามที่ Register ในข้อ 9.) ซึ่ง Avast จะส่งรหัส Register มาให้ทาง Email ดังตัวอย่าง

11. วิธีการนำ Registration Code มาใช้งาน
เปิดโปรแกรม Avast ขึ้นมา โดยคลิ๊กเมาส์ขวาที่ปุ่ม Avast ที่อยู่ที่ Task bar (ด้านล่าง) เพื่อเรียก Shortcut Menu ขึ้นมา แล้วคลิ๊กเลือก Start avast! Antivirus
12. จะมี Popup แสดงขึ้นมา คลิ๊กที่ Registration

13. แสดงหน้าต่าง Registration

ให้ Copy Code (ที่ส่งมาใน Email ของเรา ในข้อ 10.) ที่อยู่ในช่วง cut here มาทั้งหมด คลิ๊กที่ช่องใส่ Code ให้เคอร์เซอร์กระพริบ แล้วกดปุ่ม Ctrl+V เพื่อวาง Code ที่คัดลอกมา แล้วคลิ๊กปุ่ม OK
แล้วคลิ๊กปุ่ม OK แล้วจะสามารถใช้โปรแกรมกำจัดไวรัส Avast ได้ 1 ปี
14. เมื่อลงทะเบียนเสร็จ Test of Memory and Startup ให้เลือกที่ Continue

15. หน้าตาโปรแกรมจะเป็นดังรูป


16. ให้คลิกขวาที่โปรแกรม แล้วเลือก Settings...

17. ที่หน้า avast! settings.. เมนู Common จะเห็นเครื่องหมายถูกหน้าข้อความ Test memory during application start-up ส่วนนี้ถ้าไม่อยากให้ test ทุกครั้งที่เปิดโปรแกรม ก็สามารถเอาออกได้ (เพราะเรา test ครั้งแรกไปแล้ว)

18. ที่เมนู Update (Basic) ให้เลือกแบบ Automatic ทั้ง 2 Virus database และ Program
     จากนั้นกด Update now...

19. จะปรากฏหน้าต่าง avast! Antivirus Setup ให้ update ต่อไป

20. เมื่อ update เสร็จจะปรากฏหน้าต่างดังรูป คลิกปุ่ม Close ปิดหน้าต่างนี้
 
21. ต่อไปเป็นวิธีการ scan ทั้ง local disk (ควรทำหลังจากลงโปรแกรม avast)
    - click ขวาเลือก Start Scan -> Select scan area -> Local disks


22. เลือกระดับที่ต้องการ scan ในที่นี้เลือก Thorough Scan และให้ทำเครื่องหมายถูกที่ Scan archive files ด้วย เพื่อให้ scan ไฟล์ประเภท zip
      click ที่ปุ่ม >  ตำแหน่งดังรูป เพื่อเริ่มการ scan


23. โปรแกรมจะทำการ scan ไปเรื่อยๆ

24. เมื่อเจอไฟล์แปลกปลอมจะขึ้น ดังรูป ให้กด delete


25. และกดปุ่ม delete เพื่อยืนยันอีกรอบ

26. เมื่อ scan เสร็จเรียบร้อย จะขึ้นหน้าต่าง Results of last scan ดังรูป

27. เนื่องจากเป็นโปรแกรมฟรี จึงจะต้อง Update Virus Pattern ด้วยตัวเอง โดยคลิ๊กเมาส์ขวาที่ปุ่ม Avast ที่อยู่ที่ Task bar (ด้านล่าง) เพื่อเรียก Shortcut Menu ขึ้นมา แล้วคลิ๊กเลือก Updating แล้วเลือก iAVS Update (แต่เครื่องคอมพิวเตอร์ต้องต่อ Internet อยู่ด้วย)

การ Set BIOS

การ Set BIOS

ในส่วนของการ Set BIOS ผมจะสอนแบบเบื้องต้นเพื่อให้Setค่าต่างๆเป็น เพื่อใช้ในการติดตั้ง windows ทั้ง XP และ Vista นะครับ
วิธีการ Set BIOS ก็มีดังนี้
  •  หลัง จากเปิดเครื่องให้เราทำการกดปุ่ม  F2 (เครื่องผมเป็น NB ของ ASUS ถ้าเป็นยี่ห้ออื่น อาจจะเป็นปุ่มอื่นนะครับเช่น F8,F10)หรือ Del สำหรับ PC ประกอบทั่วไป ก็จะได้หน้าตา BIOS  ดังรูปครับ(อาจจะไม่เหมือนกันทั้งหมดนะครับเพราะแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันออกไป ให้เอาไว้เป็นแนวทางสำหรับคนที่ใช้รุ่นอื่นอยู่นะครับ)
  • ส่วนต่างๆของBios ก็จะมี Main, Advanced, Display, Security, Power, Boot, Exit (ใช้ Key ลูกศรเลื่อนซ้าย ขวา ครับ)
  • Main จะใช้ดูspecเครื่องของเราและใช้ในการปรับแต่งวันที่ เวลาครับ
  • Advanced ที่สำคัญจะอยู่ที่ IDE Configuration เพราะใช้เลือกเพื่อการติดตั้ง XP ครับ
  • Enter ที่ IDE Configuration จะได้ดังรูปครับ ถ้าจะติดตั้ง XP ต้องเปลี่ยนจาก Enhanced เป็น Compatible ครับ
  •  Security เป็นส่วนในความปลอดภัยครับ แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่น่าจะตั้งนะครับเพราะถ้าจำไม่ได้จะต้องรื้อเครื่องเลยนะครับ
  • Boot ตรงนี้เป็นส่วนที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง เพราะใช้ในการตั้ง Boot จากแผ่น CD,DVD เพื่อใช้ในการติดตั้ง Windows นะครับ
  • ให้ เลือกตรง Boot Device Priority ครับ จะได้ดังรูป ถ้าต้องการให้ Boot CD/DVD ก็ให้ Enter ที่ 1st Boot Devicec แล้วเลือก CD/DVD ครับ
  • Exit เป็นส่วนของการออกจาก Bios ครับให้เลือก Save Changes and Exit ครับ แต่ช่างส่วนใหญ่จะกดปุ่ม F10 กันจะได้ดังรูปข้างล่างครับ
     

การแบ่ง Partition ด้วย Norton PartitionMagic Pro Server 8.05

การแบ่ง Partition ด้วย Norton PartitionMagic Pro Server 8.05

Norton PartitionMagic Pro Server 8.05
 
การแบ่ง Partition มีขั้นตอนดังนี้
  1. ให้ใช้ mouse คลิกตรง C: เพื่อทำการสร้าง Partition หรือจะคลิกขวา ตรงแถบสีเทาก็ได้โดยเลือก Create
  2. พอได้ดังรูปก็ เลือก Create as ให้เป็น Primary ก่อนนะครับ ส่วน type จะเลือกเป็น FAT32 หรือ NTFS ก็ได้ label จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ครับ แล้วกด OK
  3. จะได้ดังรูปครับ คราวนี้สังเกตุตรงสัญลัญลักษณ์ลูกศรซ้ายขวานะครับ ตรงนี้คือเครื่องมือของการปรับเปลี่ยนขนาดของ Partition ให้คลิกตรงนี้ครับ
  4. แล้วเราก็จะสามารถปรับเปลี่ยนขนาดได้ตามต้องการแล้วนะครับ เมื่อพอใจในขนาดก็กด OK
  5. จะได้ดังรูปครับ
  6. พอได้ดังรูปก็ เลือก Create as ให้เป็น Logical นะครับ ส่วน type จะเลือกเป็น FAT32 หรือ NTFS ก็ได้ label จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ครับ แล้วกด OK
  7. ขั้นตอนที่ พอได้ Partition ที่เราต้องการก็กด Apply
  8. จะได้ดังรูปครับ การสร้าง Partition ก็ถือว่าเสร็จสมบูรณ์แล้วครับ
การลบ Partition
  1. เลือก Partition ที่ต้องการจะลบ
  2. พิมพ์ OK ลงไปแล้วกด OK
  3. แล้วกด Apply ก็จะลบ Partition ได้แล้วครับ